คำชี้แจงแบบเสนอแผนงานวิจัย (research program)

ส านักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ        
ประกอบการเสนอของบประมาณ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ตามมติคณะรัฐมนตรี
(แบบ ว-1ช)

แบบ ว-1ช หมายถึง แบบข้อเสนอการวิจัยในระดับแผนงานวิจัย  (research program)  หรือเรียกว่า
“ชุดโครงการวิจัย” ประกอบการเสนอของบประมาณประจ าปีตามมติคณะรัฐมนตรี


ของหน่วยงานภาครัฐระดับกรมหรือเทียบเท่า
ชื่อแผนงานวิจัย
1. ระบุชื่อแผนงานวิจัย (research program) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
2. ระบุชื่อโครงการวิจัย (research project) ภายใต้แผนงานวิจัยทุกโครงการทั้งภาษาไทยและ
ภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบรายละเอียดตามแบบเสนอโครงการวิจัย (แบบ ว-1ด) ทุกโครงการ
รายละเอียดแผนงานวิจัย ประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้
ส่วน  ก : ลักษณะแผนงานวิจัย
-  ระบุแผนงานวิจัยเป็นแผนงานวิจัยใหม่ หรือเป็นแผนงานวิจัยต่อเนื่อง (ปีที่ 2 เป็นต้นไป)
กรณีเป็นแผนงานวิจัยต่ อเนื่ องต้องระบุจ านวนระยะเวลาที่ ท าการวิจัยทั้งหมด และ
ปีงบประมาณที่เสนอขอว่าเป็นปีที่เท่าใด พร้อมทั้งระบุรหัสแผนงานวิจัยด้วย
I ระบุความสอดคล้องของแผนงานวิจัยกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559)

II ระบุความสอดคล้องของแผนงานวิจัยกับนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติฉบับที่ 8
(พ.ศ. 2555-2559) ซึ่งประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์  (ผนวก 2) โดยระบุความสอดคล้อง
มากที่สุดเพียง  1 ยุทธศาสตร์ และระบุกลยุทธ์การวิจัยที่สอดคล้องมากที่สุดในยุทธศาสตร์
นั้น ๆ พร้อมทั้งระบุแผนงานวิจัยที่สอดคล้องมากที่สุดในกลยุทธ์การวิจัยนั้น ๆ
III ระบุความสอดคล้องของแผนงานวิจัยกับกลุ่ มเรื่ องวิจัยที่ ควรมุ่ งเน้นตามนโยบายและ
ยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2555-2559) ซึ่งประกอบด้วย 13 กลุ่มเรื่อง
โดยระบุกลุ่มเรื่องที่มีความสอดคล้องมากที่สุดเพียง 1 กลุ่มเรื่อง (ผนวก 2)
IV ระบุความสอดคล้องของแผนงานวิจัยกับกลุ่มเรื่องเร่งด่วน ซึ่งประกอบด้วย 15 กลุ่มเรื่อง
โดยระบุกลุ่มเรื่องที่มีความสอดคล้องมากที่สุดเพียง 1 กลุ่มเรื่อง (ผนวก 3)
V ระบุความสอดคล้องของแผนงานวิจัยกับนโยบายรัฐบาล

หมายเหตุ : หากแผนงานวิจัยไม่สอดคล้องตามข้อ I, II, III และ IV ก็ไม่ต้องระบุความสอดคล้อง
                                                         

รอรายละเอียดจากส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

รอรายละเอียดจากรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง 3 กรกฏาคม 2554ส่วน  ข : องค์ประกอบในการจัดท าแผนงานวิจัย 
   1. ระบุชื่อผู้รับผิดชอบ หน่วยงานหลักและหน่วยงานสนับสนุนในระดับกลุ่ม/กอง/ส านัก/กรม/
กระทรวง หรือภาควิชา/คณะ/มหาวิทยาลัย/กระทรวง พร้อมสถานที่ตั้ง หมายเลขโทรศัพท์
โทรสาร และไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์(e-mail)
  2. ระบุประเภทการวิจัย (ผนวก 4) เพียง 1 ประเภท คือ
2.1 การวิจัยพื้นฐาน (basic research)
2.2 การวิจัยประยุกต์ (applied research)
2.3 การพัฒนาทดลอง (experimental development)
3. ระบุสาขาวิชาการและกลุ่มวิชาของสภาวิจัยแห่งชาติ (ผนวก 4)
4. ระบุค าส าคัญ (keywords)  ที่มีความส าคัญต่อชื่อเรื่องหรือเนื้อหาของเรื่องที่ท าการวิจัย
ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศให้ครบถ้วน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการน าไปใช้ในการ
เลือกหรือค้นหาเอกสารที่มีชื่อเรื่องประเภทเดียวกันกับเรื่องที่ท าการวิจัยได้
5. แสดงให้เห็นถึงความส าคัญที่จ าเป็นต้องท าการวิจัยเรื่องนี้ในระดับแผนงานวิจัย โดยก าหนด
ปัญหาให้ชัดเจน ทั้งข้อเท็จจริงและผลกระทบของปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการทบทวนเอกสาร
ที่เกี่ยวข้อง (reviewed literature) สอบถามความคิดเห็นจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง และแสวงหา
แนวทางที่น่าจะเป็นไปได้จากทฤษฎี/สมมุติฐานในสาขาวิชาการที่เกี่ยวข้อง
6. ระบุวัตถุประสงค์หลักของแผนงานวิจัยอย่างชัดเจน โดยมีความเชื่อมโยงสอดคล้องกับ
ความส าคัญและที่มาของปัญหา ตลอดจนชื่อของแผนงานวิจัย
7. อธิบายว่าแผนงานวิจัยนี้ ตอบสนองยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) นโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของ
ชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2555-2559) กลุ่มเรื่องเร่งด่วน และนโยบายรัฐบาล มากน้อยเพียงใด
ในเชิงปริมาณ พร้อมแสดงผลกระทบด้วย
8. ระบุปริมาณของสิ่งของหรือบริการที่เป็นรูปธรรมซึ่งได้จากการวิจัย เพื่อให้บุคคลภายนอก
สามารถน าไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งนี้ต้องระบุตัวชี้วัดที่แสดงถึงการบรรลุเป้าหมายในระดับ
ผลผลิตที่เกิดขึ้นในด้านความประหยัด ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ทั้งเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ
เวลา และต้นทุน
9. ระบุปริมาณของผลที่เกิดขึ้นหรือผลต่อเนื่องจากผลผลิตที่มีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและหรือ
ผู้ใช้ อาทิ ชุมชน องค์กร ประเทศ สภาพแวดล้อม ฯลฯ ทั้งนี้ ควรจัดท าแผนถ่ายทอด
เทคโนโลยีหรือผลการวิจัยสู่ กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว และต้องระบุตัวชี้วัดที่ แสดงถึงการ
บรรลุเป้าหมายในระดับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในด้านความประหยัด ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
ทั้งเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ เวลา และต้นทุน
10. แสดงทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง สมมุติฐาน (ถ้ามี) และกรอบแนวความคิด โดยแสวงหาเหตุผลที่
น่ าจะเป็นไปได้จากทฤษฏีที่ เกี่ ยวข้องกับเรื่ องที่ ท าการวิจัย แล้วน ามาสังเคราะห์เป็น
สมมุติฐาน (ถ้ามี) และกรอบแนวความคิดของแผนงานวิจัย พร้อมแสดงความเชื่อมโยง
หรือความสัมพันธ์ระหว่างโครงการวิจัยภายใต้แผนงานวิจัย
11. แสดงความคาดหมายศักยภาพและวิธีการหรือแนวทางที่จะน าผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์
ดังต่อไปนี้
11.1 แก้ปัญหาในการด าเนินงานของหน่วยงานที่ท าการวิจัย
11.2 เป็นองค์ความรู้ในการวิจัยต่อไป
11.3 บริการความรู้แก่ประชาชน11.4 บริการความรู้แก่ภาคธุรกิจ
11.5 น าไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์
11.6 เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
11.7 เป็นประโยชน์ต่อประชากรกลุ่มเป้าหมาย
11.8 อื่น ๆ (ระบุ)
ระบุกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับประโยชน์และผลกระทบจากผลงานวิจัยที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
รวมทั้งสนองตอบยุทธศาสตร์ใดในยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) นโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของ
ชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2555-2559) กลุ่มเรื่องวิจัยที่ควรมุ่งเน้นตามนโยบายและยุทธศาสตร์
การวิจัยของชาติ(พ.ศ. 2555-2559) กลุ่ มเรื่องเร่ งด่วน นโยบายของรัฐบาลและอื่ น ๆ
(ถ้ามี)
12. แสดงวิธีการบริหารแผนงานวิจัยในภาพรวมตลอดการวิจัย เพื่อประโยชน์ในการติดตาม
และประเมินผลแผนงานวิจัย โดยระบุขั้นตอนและระยะเวลาในการด าเนินการวิจัยของ
แผนงานวิจัยโดยละเอียด และแสดงแผนการด าเนินงาน (Gantt chart) แต่ละขั้นตอน
จนสิ้นสุดการวิจัย ในกรณีที่มีการเสนอของบประมาณในการวิจัยสูง ควรแสดงการบริหาร
จัดการแผนงานวิจัยที่คาดว่าจะเกิดความเสี่ยงที่จะท าให้การวิจัยไม่บรรลุวัตถุประสงค์ และ
ระบุแนวทางการแก้ไขหากเกิดความผิดพลาด
13. ระบุแนวทางหรือแผนการด าเนินงานในการเปิดโอกาสหรือสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่จากการท า
การวิจัยตามแผนงานวิจัย
14. ระบุวิธีการด าเนินงานของแผนงานวิจัย โดยเชื่อมโยงขั้นตอนการท าการวิจัยทั้งในระดับ
แผนงานวิจัยย่อย (ถ้ามี) และโครงการวิจัยภายใต้แผนงานวิจัยอย่างสมบูรณ์ถูกต้องและ
ชัดเจนถึงการมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์หลักเดียวกัน เพื่อน าไปสู่ผลส าเร็จของแผนงาน
วิจัยนี้อย่างเป็นรูปธรรม
15. ระบุระยะเวลาที่ใช้ในการท าการวิจัย ตั้งแต่เริ่มต้นถึงสิ้นสุดแผนงานวิจัย โดยระบุ เดือน
ปีที่เริ่มต้น ถึงเดือน ปีที่สิ้นสุดการวิจัย และระบุว่าปีที่เสนอขอเป็นปีที่เท่าใดของแผนงาน
วิจัย
16. แสดงแผนการใช้จ่ายงบประมาณของแผนงานวิจัย
16.1 แสดงรายละเอียดงบประมาณบริหารแผนงานวิจัยเฉพาะปีที่เสนอขอ โดยแยก
ตามงบประเภทต่าง ๆ ให้ชัดเจน (ผนวก 5)
16.2 แสดงภาพรวมของงบประมาณการวิจัยที่ เสนอขอในแต่ละปีตลอดการวิจัย
(ผนวก 6)
16.3 แสดงรายละเอียดของงบประมาณการวิจัย ตามงบประเภทต่าง ๆ ที่เสนอขอ
ในแต่ละปี ตลอดการวิจัย (ผนวก 7 และ 8)
16.4 กรณีเป็นแผนงานวิจัยต่ อเนื่ อง ที่ ได้รับอนุมัติให้ท าการวิจัยแล้ว ให้ระบุ
งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรในแต่ละปีของทุกปีที่ผ่านมา
17. แสดงข้อมูลหรืออธิบายถึงผลผลิต  (output)  ที่ได้จากงานวิจัยในแต่ละปีตลอดการวิจัย
โดยสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของแผนงานวิจัยและน าไปสู่การประยุกต์ใช้ความคุ้มค่า
ของงบประมาณที่จะใช้ท าการวิจัย ซึ่งจะน าไปสู่ผลส าเร็จที่เป็นผลลัพธ์ (outcome) และ
ผลกระทบ  (impact)  ที่คาดว่าจะได้รับ โดยให้สอดคล้องตามแผนบริหารงานและแผนการด าเนินงานตลอดแผนงานวิจัย พร้อมทั้งระบุประเภทผลส าเร็จของงานวิจัยเป็นอักษรย่อ
ซึ่งจ าแนกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. ระบุ P หมายถึง ผลส าเร็จเบื้องต้น (preliminary results) ซึ่งมีลักษณะ ดังนี้
   1.1 ผลส าเร็จที่เป็นองค์ความรู้ หรือรูปแบบ หรือวิธีการที่จะน าไปสู่การวิจัยในระยะ
ต่อไป
   1.2 ผลส าเร็จที่เป็นของใหม่และมีความแตกต่างจากที่เคยมีมาแล้ว
   1.3 ผลส าเร็จที่อาจจะถูกน าไปต่อยอดการวิจัยได้
2. ระบุ  I หมายถึง ผลส าเร็จกึ่งกลาง (intermediate results) ซึ่งมีลักษณะ ดังนี้
   2.1 เป็นผลส าเร็จที่ต่อยอดมาจากผลส าเร็จเบื้องต้นในระยะต่อมา
   2.2 เป็นผลส าเร็จที่มีความเชื่อมโยงอย่างใดอย่างหนึ่งกับผลส าเร็จเบื้องต้น
   2.3 เป็นผลส าเร็จที่จะก้าวไปสู่ผลส าเร็จระยะสุดท้ายของงานวิจัย
3. ระบุ  G  หมายถึง ผลส าเร็จตามเป้าประสงค์ (goal results) ซึ่งมีลักษณะ ดังนี้
   3.1 เป็นผลส าเร็จที่ต่อยอดมาจากผลส าเร็จกึ่งกลางในระยะต่อมา
   3.2 ผลส าเร็จตามเป้าประสงค์นี้จะต้องแสดงศักยภาพที่จะก่อให้เกิดผลกระทบ
   3.3 ผลส าเร็จตามเป้าประสงค์ที่มีศักยภาพ และมีแนวทางในการท าให้เกิดผลกระทบ
สูง ย่อมมีน้ าหนักการพิจารณาแผนงานวิจัยสูง
ตัวอย่างเช่น กรณีวิจัยการปรับปรุงพันธุ์มะม่วงเพื่อการส่งออก เนื่องจากมะม่วงที่ส่งออก
มีคุณภาพดี แต่เมื่อส่งออกไปต่างประเทศมีปัญหาเรื่องมะม่วงเปลือกบาง
เน่าเสียง่าย ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ดังนั้น จึงต้องวิจัยเพื่อแก้ปัญหา
ดังกล่าว โดยอาจจ าแนกผลส าเร็จของงานวิจัยที่คาดว่าจะได้รับ ดังนี้
    1. การวิจัยระยะแรกได้ค้นพบยีน  (gene)  ที่ควบคุมการแสดงออกลักษณะ
เปลือกแข็งของมะม่วง
    - ให้ระบุผลผลิตที่ได้ คือยีน (gene) ที่ควบคุมการแสดงออกลักษณะ
เปลือกแข็งของมะม่วง ผลส าเร็จของงานวิจัยระยะนี้ เป็นผลส าเร็จ
เบื้องต้น (P)
    2. กรณีมีการวิจัยและพัฒนาในระยะต่อมา  โดยวิจัยในรายละเอียดต าแหน่ง
ของยีน (gene) ที่ควบคุมลักษณะเปลือกแข็งของมะม่วง
    - ให้ระบุผลผลิตที่ได้คือ รายละเอียดต าแหน่งของยีน (gene)  ที่
ควบคุมลักษณะเปลือกแข็งของมะม่วง ผลส าเร็จของงานวิจัย
ระยะนี้เป็นผลส าเร็จกึ่งกลาง (I)
    3. กรณีมีการวิจัยและพัฒนาระยะต่อมาจนได้มะม่วงพันธุ์เปลือกแข็ง ซึ่ง
แสดงผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น คือท าให้เกิดมูลค่าเพิ่มของมะม่วง
เพื่อการส่งออก
    - ให้ระบุผลผลิตที่ได้ คือ มะม่วงพันธุ์เปลือกแข็งที่แสดงมูลค่าเพิ่ม
เพื่อการส่งออก ผลส าเร็จของงานวิจัยระยะนี้เป็นผลส าเร็จตาม
เป้าประสงค์ (G)
หมายเหตุ  : 1. แผนงานวิจัยอาจจะศึกษาเพียงข้อ 1  หรือ 1+2  หรือ 1+2+3 ก็ได้ขึ้นอยู่กับ
วัตถุประสงค์หลักของแผนงานวิจัยที่ก าหนดไว้
   2. แต่ละผลส าเร็จที่ได้อาจด าเนินการเสร็จสิ้นภายในปีเดียวกันหรือมากกว่า 1 ปี ก็ได้
กรณีมากกว่า 1  ปีให้ระบุผลส าเร็จที่คาดว่าจะได้รับในระยะต่าง ๆ ในแต่ละปี
ให้ชัดเจน18. แผนงานวิจัยต่อเนื่อง 2 ปี ขึ้นไป
18.1 ผู้อ านวยการแผนงานวิจัยต้องรับรองว่ าแผนงานวิจัยนี้ได้รับการจัดสรร
งบประมาณในปีงบประมาณที่ผ่านมาจริง โดยระบุเป็นข้อความ พร้อมลายมือชื่อ
ก ากับอย่างชัดเจน
18.2 ระบุว่าแผนงานวิจัยนี้ อยู่ในระหว่างการเสนอของบประมาณการวิจัยจากแหล่ง
เงินทุนอื่นหรือไม่ หรือเป็นการวิจัยต่อยอดจากการวิจัยอื่น (ถ้ามี)
18.3 ต้องรายงานความก้าวหน้าของแผนงานวิจัยตามแบบ ต-1ช/ด
19. ค าชี้แจงอื่น ๆ ควรแสดงเอกสาร หลักฐาน ค ารับรอง ค ายินยอม อาทิ โครงการพระราชด าริ
จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ จรรยาบรรณการใช้สัตว์ ฯลฯ หรือรายละเอียดอื่น ๆ ในอันที่จะ
เป็นประโยชน์และชี้ให้เห็นถึงคุณค่าของแผนงานวิจัยมากยิ่งขึ้น
20. ลงชื่อผู้อ านวยการแผนงานวิจัย พร้อมลายมือชื่อ และวัน เดือน ปี
ส่วน ค  : ประวัติผู้รับผิดชอบแผนงานวิจัย
1. ระบุชื่อ (พร้อมค าน าหน้าชื่อ เช่น นาย นางสาว นาง ยศ เป็นต้น)  และนามสกุล ทั้ง
ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
  2. ระบุเลขหมายประจ าตัวประชาชน
3. ระบุต าแหน่งบริหาร/วิชาการ ที่เป็นปัจจุบัน
4. ระบุหน่วยงานที่สังกัด และที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้สะดวก พร้อมหมายเลขโทรศัพท์  โทรสาร
และไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์(e-mail)
5. ระบุประวัติการศึกษา
6. ระบุสาขาวิชาการที่มีความช านาญพิเศษ ซึ่งอาจแตกต่างจากวุฒิการศึกษาก็ได้
7. ระบุประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานวิจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ  อาทิ
สถานภาพในการท าการวิจัยว่าเป็นผู้อ านวยการแผนงานวิจัย หัวหน้าโครงการวิจัย หรือ
ผู้ร่วมวิจัยในแต่ละผลงานวิจัย เป็นต้น
7.1 ระบุชื่อแผนงานวิจัยในฐานะผู้อ านวยการแผนงานวิจัย : ชื่อแผนงานวิจัย
7.2 ระบุชื่อโครงการวิจัยในฐานะที่ตนเองเป็นหัวหน้าโครงการวิจัย : ชื่อโครงการวิจัย
7.3 ระบุชื่องานวิจัยที่ท าเสร็จแล้ว : ชื่อผลงานวิจัย ปีที่พิมพ์ การเผยแพร่ สถานภาพ
และแหล่งทุนในการท าวิจัย
7.4 งานวิจัยที่ก าลังท า : ชื่อข้อเสนอการวิจัย แหล่งทุน และสถานภาพในการท าวิจัย
ว่าได้ท าการวิจัยเสร็จแล้วประมาณร้อยละเท่าใด
หมายเหตุ :  1. กรณีที่หน่วยงานมิได้ท าการวิจัยเอง แต่ใช้วิธีจัดจ้าง โปรดใช้แบบ ว–1ช โดยระบุรายละเอียดตาม
แบบฟอร์มที่ก าหนดไว้ให้มากที่สุด พร้อมทั้งแนบแบบข้อก าหนด  (terms of reference-TOR) การ
จัดจ้างท าการวิจัยด้วย
  2. กรณีแผนงานวิจัยต่อเนื่องที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณที่ผ่านมา และนักวิจัยมี
ความประสงค์จะเสนอของบประมาณการวิจัยในปีงบประมาณต่ อไป ต้องจัดท าแผนงานวิจัย
ประกอบการเสนอของบประมาณด้วย
  3. ระบุข้อมูลโดยละเอียดในแต่ละข้ออย่างถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อประโยชน์ในการประเมินผล
  4. กรณีแผนงานวิจัยที่มีการใช้สัตว์ให้ปฏิบัติตามจรรยาบรรณการใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์สภาวิจัย
แห่งชาติ(ผนวก 10) และจัดท าเอกสารแนบตามแบบฟอร์มใบรับรองในผนวก 11 จ านวน 1 ชุด
____________________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น